รู้จัก 10 เชฟอาหารฝรั่งเศส ที่มาใน Tour de France

Big C > ไลฟ์สไตล์ฟอร์ยู > รู้จัก 10 เชฟอาหารฝรั่งเศส ที่มาใน Tour de France

งานฟู้ดแฟร์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Tour de France) ที่บิ๊กซี พระราม 4 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 29 มิ.ย. – 20 ก.ค. 2565 เป็นเทศกาลอาหารที่จัดเตรียมอาหารฝรั่งเศสสำหรับคุณมาถึง 10 ภูมิภาคด้วยกัน ไม่ต้องนั่งเครื่องบินไกลและจ่ายค่าที่พัก แค่มาในงานก็เหมือนได้ไปเที่ยวที่ฝรั่งเศสทั้งประเทศแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม และที่สำคัญได้มีการขนทับ เชฟอาหารฝรั่งเศส ชื่อดังในประเทศไทย 10 ท่าน มาในงานอีกด้วย นอกจากนี้ความพิเศษของงานนี้ คือเชฟจะมีการรังสรรค์เมนูอาหารให้ได้ชมกันแบบใกล้ชิด ชนิดที่ว่าติดขอบเตาปรุงอาหารกันเลยทีเดียว มาดูเลยว่า 10 เชฟที่มาในงาน Tour de France จะมีใครกันบ้าง?

10 เชฟอาหารฝรั่งเศส

Julien le Breton

1. Julien le Breton

Chef Julien le Breton เชฟชาวฝรั่งเศสจากร้าน Klong Pai Farm หรือร้านคลองไผ่ฟาร์ม เชฟหนุ่มผู้ถนัดในเรื่องการทำอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย เมนูอาหารของเขาได้รับอิทธิพลมาจากอาหารของทางตอนใต้ยุโรป สเปน อิตาลี กรีซ ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นเมนูอาหารที่เข้าถึงยาก สำหรับผู้ที่ไม่เคยลองรับประทานอาหารฝรั่งเศสมาก่อน เพราะว่าเขาช่ำชองในการพลิกแพลงและดัดแปลงอาหารฝรั่งเศส โดยใช้สมุนไพรและพืชผักที่หาได้ในประเทศ ดังนั้นวัตถุดิบค่อนข้างจะคุ้นลิ้นคนไทยแน่นอน นอกจากเมนูอาหารของเขาจะอร่อยแล้ว ยังเป็นอาหารที่รักษ์โลกอีกด้วย เมนูพิเศษจากเชฟคือ Civet de canette provencale ความพิเศษจากวัตถุดิบของคลองไผ่ฟาร์มคือ เป็นไก่ที่เลี้ยงในธรรมชาติ ไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช้ยาปฎิชีวนะ มีความสุขทั้งไก่และคนกิน

Thierry Fostier

2. Thierry Fostier

Chef Thierry Fostier เจ้าของร้าน Masion Fostier และเป็น co founder ที่ร้าน Submarine Bangkok  เขาเป็นเชฟที่ขึ้นชื่อในการทำอาหารด้าน charcuterie หรือ อาหารเนื้อตัดเย็น (Cold Cuts) เป็นอาหารจำพวกเนยแข็ง ไส้กรอก หมูแฮม และเนื้อบดอบ จะนำมาหั่นเป็นชิ้นบางชิ้นหนาก็ตามแต่ใจผู้กิน ซึ่งเป็นเมนูเด็ดจากภูมิภาค Ardennes ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างฝรั่งเศส-เยอรมัน นับว่าเป็นอาหารที่ผสมผสานระหว่าง 2 วัฒนธรรมได้อย่างลงตัว เทคนิคในการทำอาหารของเขาแพรวพราว ไม่ธรรมดา ถ้าได้ลองเนื้อตัดเย็นของเชฟ Thierry Fostier สักชิ้น รับรองว่าจะติดใจแน่นอน เมนูพิเศษจากเชฟคือ Charcuterie Ardennaises นอกจากความสามารถทางด้านการทำอาหารที่เป็นเลิศแล้ว เขายังมีความสามารถพิเศษที่หาตัวได้ยากคือพรสรรค์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพทั่วไปหรือภาพอาหาร ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล

Benilde Blanc

3. Benilde Blanc

Chef Benilde Blanc เป็น Co-owner ที่ร้าน @Café Mademoiselle และเจ้าของร้าน Minimise Café เชฟผู้มากความสามารถที่หลงใหลในการทำอาหาร ถนัดในด้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมและขนมฝรั่งเศสสไตล์โฮมเมด ทั้งเมนูคาวและขนมหวาน เช่น เค้ก ขนมหวาน เบเกอร์รี่ ทุกจานของเชฟล้วนแล้วแต่พิถีพิถันและละเมียดละไมเป็นที่สุด เพียงแค่ชิมอาหารของเชฟ Benilde Blanc แค่คำเดียว จะช่วยทำให้จิตใจที่หม่นหมองกลับมาสดใสและอบอุ่นอีกครั้ง ไม่ว่าใครที่ได้ชิม จะติดใจจนอยากมากินซ้ำเสมอ ส่วนเมนูพิเศษจากเชฟคือ Bugnes Lyonnaises

Cédric Cador

4. Cédric Cador

Chef Cédric Cador จากร้าน Cagette Canteen & Deli เชฟประสบการณ์สูง ที่รังสรรค์เมนูอาหารด้วยความใส่ใจและละเมียดละไม ความตั้งใจของเชฟคืออยากให้ทุกคนทานอาหารฝรั่งเศสดี ๆ โดยไม่ไปต้องไปไหนไกล เขาถนัดในการทำอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นแนวอาหารที่เน้นวัตถุดิบจำพวกผักผลไม้ น้ำมันมะกอก เนื้อปลา เนื้อสัตว์ปลา และธัญพืชเป็นหลัก ซึ่งเป็นอาหารที่นิยมในหมู่ผู้ต้องการคุมน้ำหนัก ยิ่งเป็นจานที่ทำจากมือของเชฟ Cédric Cador ด้วยแล้ว ยิ่งประกันความอร่อยเหาะ แค่อาหารคำเดียวก็ทำให้รู้สึกถึงรสชาติความอร่อยที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต อยากให้ทุกคนได้มาลองอาหารจากฝีมือของเชฟ Cédric Cador จะเห็นถึงสวรรค์รำไรแน่นอน แถมยังเป็นเมนูอาหารที่ได้สุขภาพดีอีกต่างหาก ส่วนเมนูพิเศษจากเชฟคือ Ratatouille เป็นเมนูอาหารดังในภาพยนตร์เรื่อง Ratatouille พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลก เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจและให้ข้อคิดดี ๆ มากมาย สำหรับแฟนภาพยนตร์ก็อย่าพลาดที่จะลิ้มลองเมนูนี้กันนะ

Maxime Robouant

5. Maxime Robouant

Chef Maxime Robouant จากร้าน Kove Me Tender เชฟชาวฝรั่งเศสที่มีประสบการณ์ในการทำอาหารมายาวนานมากกว่า 10 ปี ในร้านอาหารระดับภัตตาคารและโรงแรมหรูมากมาย เช่น Miramar Boutique Hotel Seasonal, Pullman Bangkok Grande Sukhumvit ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานขนาดนี้ ถือเป็นตัวการันตีความอร่อยของเชฟได้อย่างแน่นอนว่า เมื่อกินเข้าไปแล้วต้องอุทาน ได้แค่คำเดียวว่าอร่อยมาก รสมือของเชฟ Maxime Robouant อร่อยล้ำอย่าบอกใคร ใส่ใจและพิถีพิถันทุกจาน กินแล้วรู้สึกเหมือนได้บินไกลไปถึงฝรั่งเศส รวมไปถึงไม่ต้องจองคิวเชฟให้เสียเวลา แค่เข้ามาในงานฟู้ดแฟร์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ก็เข้าถึงอาหารของเชฟได้แบบง่าย ๆ แล้ว เมนูพิเศษจากเชฟคือ Saucisse de Montbéliard

Francis Barthe

6. Francis Barthe

Chef Francis Barthe จากร้าน Bistro Sathorn French Cuisine เชฟอาหารฝรั่งเศส ประสบการณ์สูง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ของผู้ที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ฝรั่งเศสในประเทศไทย เชี่ยวชาญอาหารจากแถบภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส อาหารทุกจานของเชฟล้วนออกมาจากความใส่ใจและละเอียดละออ เพียงได้ลองชิมหนึ่งคำจากเชฟ Francis Barthe ก็จะวางช้อนไม่ลง อดใจไม่ไหว กินจนหมดจาน และถ้าได้ลองสักครั้ง รับรองว่าคุณจะกลายเป็นลูกค้าประจำของเชฟแน่นอน เมนูพิเศษจากเชฟคือ Parmentier de Canard, Saucisse de Toulouse และ Cassoulet

 Frederic Hamann Alexandre Demard Clément Henandez

7. Frederic Hamann

Chef Frederic Hamann จาก Disciples d’Escoffier ซึ่งเป็นสมาคมที่อุทิศตนเพื่อศิลปะการทําอาหาร นอกจากเป็นเชฟแล้ว ความเก่งกาจของเขายังอยู่ในระดับสูง เป็นอาจารย์ที่สามารถสอนผู้อื่นในเรื่องการทำอาหารได้ เขาเป็นผู้สอนมาสเตอร์เชฟที่ ICDE ในประเทศไทย นอกจากนี้เขายังเป็นนายกสมาคมอาหารฝรั่งเศส Disciples d’ Escoffier Thailand เขาสําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี B.E.P. และ C.A.P. ในสาขาศิลปะการต้อนรับ และการทําอาหารจาก C.F.Adolphe Chauvin ในออสนีประเทศฝรั่งเศส ความสามารถในการทำอาหารของเขาอยู่ในระดับที่หาตัวจับยาก ทุกเมนูของเขาเปรียบเสมือนงานศิลปะระดับสูงที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวัน เมนูพิเศษจากเชฟภายในงานคือคือ Crêpe Complète

8. Clément Henandez

Chef Clément Henandez จาก Disciples d’Escoffier ซึ่งเป็นสมาคมที่อุทิศตนเพื่อศิลปะการทําอาหาร เชฟนักรังสรรค์เมนูอาหารเชื้อสายฝรั่งเศสและสเปน ดีกรีแชมป์รางวัลอันดับ 1 จากทวีปยุโรป เขาเชี่ยวชาญในการทำอาหารแบบไฟน์ไดนิ่ง Fine Dining เป็นอาหารที่คนกินแล้วมีความสุข มักจะอยู่ในร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้เขาเป็นนักพลิกแพลงชั้นยอด โดยนำวิธีการแบบดั้งเดิมผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เพื่อสร้างสรรค์อาหารฝรั่งเศส ทำให้จานอาหารฝรั่งเศสของเชฟมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ความพิเศษของเมนูจากเชฟ Clément Henandez นั้นคือ รูปลักษณ์ภายนอกของจานอาหารของเขา จะให้ความให้รู้สึกเบาสบาย แต่ล้วนอัดแน่นไปด้วยรสชาติความเข้มข้น เป็นเมนูพิเศษที่หาทานได้ยากและควรค่าต่อการลิ้มลอง

9. Alexandre Demard

Chef Alexandre Demard จาก Disciples d’Escoffier ซึ่งเป็นสมาคมที่อุทิศตนเพื่อศิลปะการทําอาหาร เชฟหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่มีความถนัดทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน มีประสบการณ์เคยทำขนมที่โรงแรมพาเลซ ในเมืองคานส์ มากกว่า 15 ปี จุดเด่นของอาหารของเขาคือสีสันฉูดฉาดและมีรสชาติที่อร่อยจัดจ้าน ทุกจานของเชฟเต็มไปด้วยความรักและความใส่ใจ ความพิเศษในเมนูอาหารคาวของเชฟ Alexandre Demard นั้น ได้มีการประยุกต์ใช้เทคนิคสไตล์การตกแต่งจานอาหารหวาน มาใช้ในการตกแต่งอาหารคาว ทำให้รูปลักษณ์ของจานอาหารสวยงามและโดดเด่น เชฟเปรียบเสมือนศิลปินที่ทำอาหารออกมาเป็นผลงานศิลปะ ที่กินได้และอร่อยมากด้วย

Pathumporn Sustersic

Credit : https://www.wongnai.com/restaurants/1057737dY-andjo-atelier-p%C3%A2tisserie และ https://lepetitjournal.com/bangkok/annuaire/gastronomie/andjo-patisserie-artisanale-tradition-francaise-sathorn

10. Pathumporn Sustersic (Jo)

Chef Pathumporn Sustersic จากร้าน AndJo Atelier Pâtisserie เชฟที่หลงใหลในการทำขนมหวาน เชฟ Jo เป็นผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวประเทศในแถบยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส จึงได้รับเทคนิคและสูตรอาหารพิเศษต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเธอเองก็ได้นำมาประยุกต์ในการทำมาการอง ทาร์ตผลไม้ เค้กช็อกโกแลต,ช็อกโกเลต และ cannelé อื่นๆ ความพิเศษอยู่ที่วัตถุดิบขนมหวาน จะไม่ใช้วัตถุดิบที่แช่แข็งและวัตถุดิบที่เป็นรสชาติสังเคราะห์ เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติจริง ๆ นอกจากจะกินแล้วอร่อย แล้วยังเป็นอาหารตาอีกด้วย เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของขนมสวยมาก แสดงถึงความประณีตและความใส่ใจของเชฟเป็นที่สุด

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 เชฟ เป็นเชฟในขวัญใจใครกันบ้าง? แค่ได้อ่านก็รู้สึกอยากลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสจาก10 เชฟ กันบ้างไหมคะ ? ถ้าอยากทดลองเป็นชาวฝรั่งเศสฉบับง่าย ๆ ก็ลองไปที่งานนี้กันเลย สำหรับใครที่ไม่สะดวก ก็สามารถเข้าถึงอาหารฝรั่งเศสในรูปแบบ French Chef’s Table ได้ง่าย ๆ ที่บ้านเพียงแค่สั่งซื้อกล่อง DIY 4 เมนู จากเชฟชื่อดังในเมืองไทย อย่างเชฟเควส เชฟ Clément เชฟพฤกษ์ เชฟน้ำเชื่อม เชฟเป่าเป้ และคุณแทน นอกจากจะทำตามง่ายแล้ว แลังยังใช้งบที่ประหยัดอีกด้วย สั่งซื้อง่าย ๆ ที่นี่

ติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่นพิเศษ ได้ที่

แชร์เรื่องราว