10 ร้านอาหารฝรั่งเศส ทั่วกรุงเทพฯ ที่ชีวิตนี้ต้องไปลองสักครั้ง

สายกินห้ามพลาด! วันนี้เราอยากเชิญชวนทุก ๆ ท่านให้มาลิ้มรสความอร่อยของอาหารฝรั่งเศสรสเลิศ หน้าตาหรูหรา ที่ได้จากวัตถุดิบนำเข้าหายากที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยเชฟมากความสามารถและเทคนิคการปรุงอันแสนช่ำชอง บอกเลยว่าเตรียมต่อมรับรสให้พร้อม มาสัมผัสกับ 10 ร้านอาหารฝรั่งเศส ที่รวบรวมมาตั้งแต่ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับ ไปจนถึงอาหารฝรั่งเศสที่ทำออกมาให้กินง่าย และเข้าถึงได้มากขึ้น อย่ารอช้า ตามไปชิมกันเลยจ้า

รวม 10 ร้านอาหารฝรั่งเศส ทั่วกรุงเทพฯ ที่ไม่ควรพลาด

1. อยากทำแต่ไม่อยากกิน

ร้านเชฟเทเบิ้ลที่โด่งดังและคิวยาวมากกกกกก โดยเชฟบิ๊ก ผู้ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตามร้านอาหารดังๆ มาแล้วมากมาย และลูกค้าต่างพากันแนะนำแบบปากต่อปากถึงความอร่อยสไตล์คลาสสิคและความสนุกสนานเป็นกันเองของเชฟ ตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น บรรยากาศสบายๆ เหมือนมากินข้าวที่บ้านเชฟ ในส่วนของอาหาร ที่นี่จะเป็นอาหารสไตล์คลาสสิคเฟรนช์ที่พยายามปรับเข้ากับลิ้นคนไทย แต่ยังคงความเป็นอาหารคลาสสิค มีการรังสรรค์เมนูอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศที่คัดสรรคุณภาพทุกเมนู และปรุงเนื้อสัตว์ได้สุกแบบพอเหมาะ ชูวัตถุดิบหลักได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากแวะมาสัมผัสรสชาติอาหารฝรั่งเศสอร่อยๆ พร้อมบรรยากาศสบายๆ แนะนำว่ามาที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน

Credit : https://paidonnnn.com/yak-tum-mai-yak-gin/

2. Chef’s Table Bangkok

ร้านอาหารฝรั่งเศส Fine Dining บนชั้น 61 ของโรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ สีลม ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนระดับให้เป็นห้องอาหารระดับ 2 Michelin Stars จาก Michelin Guide ประจำปี 2021 โดยหัวหน้าเชฟของร้านนี้คือ Vincent Thierry ชาวฝรั่งเศส ถือเป็นเชฟยอดฝีมือที่เคยทำงานในร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน ทั้งที่ปารีสและฮ่องกง จึงการันตีได้เลยว่าอาหารสไตล์คลาสสิคฝรั่งเศสของที่นี่รสชาติอร่อยถูกใจ สามารถกระตุ้นต่อมรับรสของคุณได้อย่างแน่นอน นอกจากอาหารอร่อยและวัตถุดิบสุดพรีมียมแล้ว ยังได้เห็นทีมเชฟปรุงอาหารกันสดๆ ตรงหน้า พร้อมกับครัวเปิดที่มีเตาบนเคาท์เตอร์หินอ่อนขนาดใหญ่อยู่กลางร้าน ดูหรูหรา ท่ามกลางวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!

Credit : https://www.facebook.com/chefstableatlebua

3. The Brasserie

อาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดคลาสสิก ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ใจกลางกรุง ซึ่ง The Brasserie เป็นหนึ่งในห้องอาหารสุดหรูของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ฝรั่งเศสต้นตำรับ โดยมีเมนูขึ้นชื่ออย่าง Seared Foie Gras Brioche ฟัวกราส์ย่างที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังแบบกรุบกรอบ ทานคู่กับแอปเปิ้ลและลูกฟิกย่าง พร้อมตัดรสเลี่ยนด้วยซอสน้ำส้มสายชูที่ทำจากองุ่นอย่าง Balsamic Reduction ให้รสชาติกลมกล่อม หอมมัน พร้อมรสสัมผัสของฟัวกราส์แบบนุ่มละมุน บอกเลยว่าที่นี่เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพดีเยี่ยมของท้องถิ่นมาผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม กลายเป็นรสชาติอาหารสุดอร่อยที่ใครได้มากินแล้วต่างประทับใจไปตามๆ กัน

Credit : https://www.bkkmenu.com

4. Second Edition

ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่ต่อยอดมาจากร้าน 4 Garcons (โฟร์กาซอง) โดยเชฟผู้มากด้วยประสบการณ์ทางด้านอาหารฝรั่งเศสมายาวนานอย่าง เชฟแวน อายุษกร อารยางกูร ซึ่งตั้งใจที่จะดึงรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบชั้นดีออกมา ผ่านเทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม โดยเมนูอาหารเป็นแนวโฮมคุ้กกิ้ง กินง่าย ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปในที่ต่างๆ ของเชฟแวน โดยเฉพาะเมนูย่างที่ทำออกมาได้น่าประทับใจ โดยใช้เตาถ่านเพื่อให้มีกลิ่นหอม และใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและผักออร์แกนิก ซึ่งจะจัดเสิร์ฟเป็นจานใหญ่เพื่อให้แชร์กันได้ อย่าลืมชวนเพื่อนๆ มาลิ้มลองความอร่อยกันได้ที่ Second Edition รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอนจ้า

Credit : https://www.bkkmenu.com

5. The Bar Upstairs

The Bar Upstairs ร้านขายไวน์บนชั้นสามของร้านอาหารฝรั่งเศส Brasserie Cordonnier ย่านสุขุมวิท 11 ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความลึกลับของบ้านร้างในเมืองโพรวองซ์เมืองตากอากาศทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ตกแต่งด้วยบรรยากาศอันร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่นานาชนิด ถือเป็นสถานที่นั่งชิลยามเย็นที่บรรยากาศดีสุดๆ และอาหารฝรั่งเศสของที่นี่ถูกนำเสนอออกมาให้เข้าใจง่ายขึ้น กินง่ายขึ้น สามารถกินคู่กับไวน์ของที่นี่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเทอรีนแบบโฮมเมด ชีสชั้นยอดจากทุกมุมโลก โคลคัต และอาหารว่างอื่นๆ ที่เสิร์ฟในตะกร้าปิกนิกเพื่อให้คุณเลือกทานได้ตามต้องการ

Credit : https://paapaii.com/eating-the-bar-upstairs/

6. Le Normandie

ห้องอาหารฝรั่งเศสหรูหราเก่าแก่ ถือว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบ Fine Dining ร้านแรกๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ตัวร้านตั้งอยู่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกเลยว่าวิวยามค่ำคืนสวยมาก ในส่วนของอาหาร ทุกเมนูรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบชั้นยอด โดยเชฟ Arnaud Dunand Sautheir ที่ได้ร่วมงานกับเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อาหารแต่ละเมนูของเชฟจึงเรียกได้ว่าเป็นฝรั่งเศสแท้ๆ ที่มีการปรุงอย่างพิถีพิถัน การันตีความอร่อยให้เราแบบไม่ต้องสงสัย โดยวัตถุดิบหลักๆ ทางเชฟจะคัดสรรและนำเข้ามาเอง ไม่ว่าจะเป็น เป็ดพันธุ์ Challans หรือเนื้อแกะอ่อนจาก Pyrenees เพื่อนำมาประกอบเมนูชั้นเลิศ อีกทั้งทางร้านยังได้รับเกียรติจากเชฟและเจ้าของร้านระดับมิชลิน 3 ดาวหลายต่อหลายท่านมาเป็นเชฟแขกรับเชิญ ปรุงมื้อสุดพิเศษให้ทุกๆ คนได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

Credit : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/981239

7. J’AIME by Jean-Michel Lorain

ห้องอาหารเฌม บายฌองมิเชล โลรองต์ ณ โรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ ที่ได้รับการกล่าวถึงจากนักชิมหลายท่าน มีการนำเสนออาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับแท้ๆ ที่รังสรรค์เมนูโดยมิชลินสตาร์ เชฟฌองมิเชล โลรองต์ จากห้องอาหารเลอ ค็อตส์ เซงต์ จาร์ค ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีหลังเปิดให้บริการเพียงไม่นาน ด้วยความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศตามแบบฉบับอาหารฝรั่งเศส ผสมผสานกับวัฒนธรรมการแบ่งปันบนโต๊ะอาหารแบบชาวเอเชีย ทำให้คนที่ไปทานได้มีโอกาสลิ้มลองเมนูที่หลากหลาย พร้อมการให้บริการและการต้อนรับอย่างอบอุ่น และด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มุ่งมั่น และการร่วมแรงร่วมใจระหว่างเชฟอเมริโก้ ติโต้ เซสทิ และ เชฟฌองมิเชล โลรองต์ ทำให้ห้องอาหารได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดาวมาครองในปี 2018

Credit : https://www.bkkmenu.com/eat/we-recommend/jaime.html

8. Savelberg

ซาเวลเบิร์ก เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสระดับ Haute Cuisine ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีทั้งจากประเทศในโซนยุโรปและวัตถุดิบท้องถิ่นของประเทศไทย นำมาประกอบกับเทคนิคการปรุงสุดพิเศษ ทำให้ตัวร้านมีชื่อเสียงอย่างมาก รังสรรค์เมนูโดยเชฟ Henk Savelberg เชฟชาวดัตช์ ที่มีดีกรีระดับเจ้าของร้านอาหารที่ได้รับมิชลินสตาร์มากถึง 4 ร้านในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยห้องอาหาร Savelberg มีการรังสรรค์เมนูอาหารในรูปแบบฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่มีกลิ่นอายความเป็นดัตช์ผสมอยู่ ที่ร้านมีทั้งเมนู à la carte และ tasting menu โดยเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าจากยุโรป โดยเฉพาะประเทศเนเธอแลนด์บ้านเกิดของเชฟมาผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยออกมาได้อย่างลงตัว

Credit : https://thestandard.co/savelberg/

9. L’Atelier de Joel Robuchon

เป็นร้านในเครือของ Joel Robuchon เชฟที่มีร้านที่ได้มิชลินสตาร์กว่า 20 ร้าน โดย Concept ของร้านจะฉีกจากร้านอาหาร Fine Dining แบบฝรั่งเศสทั่วไป ด้วยบรรยากาศสบายๆ และสไตล์ที่แปลกใหม่ โดยที่นั่งหลักๆ จะเป็นโต๊ะเคาเตอร์ที่สามารถนั่งชมการทำอาหารจาก open kitchen ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและดื่มด่ำไปกับอาหาร พร้อมชมเทคนิกการปรุงอาหารจากเชฟมากความสามารถ สำหรับเมนูทางร้านก็ได้เฟ้นหาและคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก โดยนำเสนออาหารในรูปแบบที่สามารถเลือกได้ทั้งจานเดียวและคอร์สเมนู เสิร์ฟพร้อมกับไวน์ชั้นยอดนำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับท่านที่อยากแวะมาสัมผัสรสชาติอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ระดับ Michelin Star แวะมาที่ L’Atelier ท่านจะได้พบกับอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศในบรรยากาศและบริการสุดประทับใจ แถมไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศอีกด้วยนะ

Credit : https://www.eatchillwander.com

10. La VIE Bistronomy

ลาวีบิสโทรโนมี ตั้งอยู่ที่โรงแรม VIE Hotel Bangkok, MGallery ติดกับรถไฟฟ้าราชเทวี เป็นร้านที่ให้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นสบายๆ แต่หรูหรา มีการนำเสนอคุณภาพของวัตถุดิบในรูปแบบอาหารที่ทานง่าย พร้อมตื่นตาตื่นใจกับครัวเปิด ที่จะทำให้คุณสามารถมองเห็นการรังสรรค์เมนูอาหารมากมายโดยเชฟมากความสามารถ รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในอาหารทุกจานล้วนแต่สดใหม่ และคัดมาจากแหล่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ตับห่านนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ซี่โครงแกะนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เนื้อริบอายนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น ใครที่ชอบทานอาหารฝรั่งเศสแนะนำให้มาที่ La VIE Bistronomy รับรองว่าจะติดใจในจนอยากกลับมาทานซ้ำอย่างแน่นอน

Credit : https://bestiewanderer.com/eat/la-vie-bistronomy/

โอกาสดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารฝรั่งเศส หรืออยากลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสจากหลากหลายภูมิภาค สามารถมาได้ที่งาน กูต์ เดอ ฟรองซ์ ภายในงานมีสินค้าฝรั่งเศสมากมาย พร้อมอาหารฝรั่งเศสที่รังสรรค์โดยเชฟชื่อดังอีกหลากหลายร้าน ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. – 20 ก.ค. 2565 ที่ บิ๊กซี พระราม 4 และช่องทางออนไลน์ แต่หากใครพลาดงานนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป สามารถช้อปวัตถุดิบสำหรับทำอาหารฝรั่งเศสแสนอร่อยได้ ที่นี่