แซลมอนนอร์เวย์ อร่อยยังไง ทำไมใครๆถึงชอบ

Big C > ของดีบอกต่อ > แซลมอนนอร์เวย์ อร่อยยังไง ทำไมใครๆถึงชอบ

แซลมอนนอร์เวย์ดีอย่างไร

แต่ไหนแต่ไรมาที่คนไทยเรามีการบริโภคแซลมอนกันเยอะมาก ๆ ความอร่อยของเนื้อปลาสีส้ม ทำให้กลายเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน แต่มีใครรู้ไหมคะ ว่าทำไมต้องเป็น แซลมอนนอร์เวย์ มันดีกว่าที่อื่นอย่างไร? เราจะมาคำตอบนี้กันค่ะ

ทำไมต้องเป็นแซลมอนนอร์เวย์

หลายครั้งมักจะมีคำถามว่าประเทศอื่นมีปลาแซลมอนไหม หรือสามารถเพาะเลี้ยงแซลมอนได้หรือเปล่า ทำไมนอร์เวย์ถึงต้องยืนหนึ่งในเรื่องของปลาแซลมอน เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โดยธรรมชาติแล้วแซลมอนจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แซลมอนฝั่งแอตแลนติกและแซลมอนฝั่งแปซิฟิก โดยทั้งสองสายพันธุ์จะพบในบริเวณที่น้ำเย็นในซีกขั้วโลกเหนือ ซึ่งแซลมอนที่เราเห็นส่วนมากจะมาจากฝั่งแอตแลนติก

สำหรับนอร์เวย์จะมีชายฝั่งที่ทอดยาวไปถึงทะเลแอตแลนติก จัดว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีมาก ๆ สำหรับแซลมอนซึ่งเป็นปลาที่เจริญเติบโตได้ดีในน้ำเย็น เพราะที่นี่แซลมอนจะอาศัยอยู่ได้ในสภาพที่เป็นธรรมชาติ โดยฟาร์มของนอร์เวย์ทุก ๆ ฟาร์ม จะเน้นความยั่งยืนและพื้นที่ให้ปลาสามารถว่ายไปมาได้ ซึ่งที่นี่จะลดการใช้ยาปฏิชีวินะลงมาก ๆ เมื่อเทียบกับที่อื่น

นอร์เวย์ ; ปราชญ์แห่งแซลมอน

 ในการเพาะเลี้ยงแซลมอนที่ฟาร์มของนอร์เวย์นั้นจะมีกระบวนการหลายขั้นตอนที่สะท้อนถึงความเอาใจใส่ในการผลิต เขาจะเลี้ยงแซลมอนในบ่อน้ำจืด ก่อนที่จะปล่อยลงสู่ฟาร์มที่อยู่ในทะเล เพื่อให้แน่ใจว่า แซลมอนจะผ่านกระบวนการพัฒนาตามธรรมชาติอย่างแท้จริง หลังจากที่ผสมพันธุ์ไข่ปลาแล้ว ตัวอ่อนจะอยู่ในน้ำสะอาดเป็นเวลา 60 วัน จนกว่าจะฟักตัว จากนั้น แซลมอนจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยใช้เวลากว่า 16 เดือน พอได้ลูกปลาตัวเล็ก ๆ ก็ย้ายไปยังน้ำทะเล

แซลมอนจะถูกเลี้ยงในน้ำทะเลจนทำน้ำหนักได้ถึง 4-6 กิโลกรัม ซึ่งจะกินเวลา 14-22 เดือน ฟาร์มส่วนใหญ่ของนอร์เวย์จะมีจุดที่น้ำทะเลสามารถไหลผ่านเข้ามาได้ตามธรรมชาติ ซึ่งน้ำตรงนี้จะมีออกซิเจนที่สูง จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเลี้ยงแซลมอน

นอร์เวย์ยืนหนึ่งเรื่องแซลมอน

รู้หรือไม่ว่าไทยเป็นประเทศอันดับ 1 ในภูมิภาค และ 1 ใน 20 อันดับของโลก ที่มาการนำเข้าแซลมอนจากนอร์เวย์ ซึ่งนอร์เวย์เองก็เป็นเจ้าพ่อในแวดวงการส่งออกอาหารทะเลระดับโลก นอกจากนี้ เรื่องความสะอาดและความสดใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะย้ายแซลมอนจากนอร์เวย์มายังประเทศไทยหรือประเทศอื่น ๆ ซึ่งนอร์เวย์เองก็ทำได้ดีมากเพราะเขาได้มีการพัฒนาการผลิตและโลจิสติกแบบสุดยอด จนปัจจุบันสามารถทำเวลาหลังจากขึ้นจากทะเลมาสู่ประเทศไทยในเวลาเพียงภายใน 48 ชั่วโมง เรียกว่าสดกว่านี้คงต้องไปกินในทะเลแล้ว!!

นอร์เวย์มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการแปรรูปและเตรียมแซลมอน อันเนื่องมาจากคนนอร์เวย์ผูกพันกับการทำประมงมาตั้งแต่ยุคไวกิง ในสมัยนั้น คนนอร์เวย์จะทำปลาตากแห้งใชแทนเงินเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนสินค้า
อื่น ๆ ของชาวต่างประเทศ ก็ดำรงชีพด้วยอาชีพประมงไปเรื่อย ๆ จนพัฒนาความชำนาญ นวัตกรรม และสายพันธุ์ปลาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกใจเลยที่นอร์เวย์จะสามารถจัดการแซลมอนก่อนจะส่งมายังไทยได้อย่างดีเยี่ยม

แซลมอลนอร์เวย์

โดยการส่งออกแซลมอนนั้น นอร์เวย์สามารถใช้เวลาเพียง 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น ตั้งแต่การจับปลาจากฟาร์มจนถึงการแพ็คน้ำแข็งที่ความเย็น 0-4 องศาเซลเซียส เพื่อพร้อมที่จะส่งขึ้นเครื่องบิน โดยศูนย์ที่จัดการแซลมอนในการแปรรูปนี้จะมีมาตรฐานการจัดการที่เน้นความสะอาดขั้นสูง เพื่อรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสูง ทำให้ปลาแซลมอนนอร์เวย์ได้รับอนุญาตให้ส่งออกในลักษณะของปลาสดไปยังประเทศทั่วโลกได้โดยไม่ต้องแช่แข็ง ซึ่งแซลมอนที่ไม่แช่แข็งจะให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีกว่าแน่นอน

นอกจากนี้ ระบบการควบคุมของนอร์เวย์ก็เข้มงวดมาก ๆ รวมถึงระบบข้อมูลการผลิตปลาแซลมอนของเขายังสามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ในทะเลจนส่งออกไปยังตลาด เรียกว่ามีความโปร่งใสมาก ๆ เพื่อที่จะควบคุมคุณภาพของปลาแซลมอนนอร์เวย์ได้ตามมาตรฐานนั่นเอง

เพราะแบบนี้นี่เอง แซลมอนนอร์เวย์ จึงขึ้นเป็นขวัญใจอาหารยอดนิยมของคนทั่วโลก เพราะเขาไม่ใช่แค่เลี้ยงแต่ยังใช้ความใส่ใจ ดูแล เพื่อให้ปลาได้เติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด รวมไปถึงกระบวนการขนส่งสู่ตลาด ที่ใช้มาตรฐานการผลิตที่คุณภาพสูง เน้นเรื่องความสะอาด ปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ อย่างนี้คงต้องยกนิ้วให้เขาเลยค่ะ

นึกถึงแซลมอน ต้อง แซลมอนนอร์เวย์ ที่บิ๊กซี สด สะอาด ปลอดภัย การันตีความอร่อยเเน่นอน ช้อปเลยที่นี่

ติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่นพิเศษ ได้ที่

Facebook : Big C

Line Official : Big C TH

บทความที่นาสนใจ : Big C Blog

บิ๊กซี ออนไลน์ : Big C Shopping Online

แชร์เรื่องราว