ซุปเปอร์บิ๊กพิชิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ตอน ของที่ต้องมีในยุคนี้นั้นก็คือ “เครื่องกรองอากาศ”
เมืองหลวงฝุ่นและควันมากมาย ไม่วายก็มารีวิวเครื่องกรองอากาศ ฮ่าๆ ถ้าจะซื้อเครื่องกรองอากาศมาไว้ที่บ้านสักเครื่องเราก็ต้องมั่นใจแล้วว่าเงินที่เสียไปนั้นคุ้มค่าใช่ไหมล่ะครับ ผมได้มีโอกาสไปเดินที่ Big C แล้วแตะตากับเครื่องฟอกอากาศ Sharp Air purifier รุ่น FP-J30TA ผมยืนเล่นอยู่นานจึงตัดสินใจซื้อ และจะมาบอกเล่าความสามารถของเจ้าเครื่องนี้ให้คุณผู้อ่านทุกคนได้พิจารณากันครับ
Sharp Air purifier เค้ามีเทคโนโลยีที่จดลิขสิทธิ์ของชาร์ป คือ “พลาสม่าคลัสเตอร์” ที่ผ่านการรับรองและพิสูจน์จากสถาบันวิจัยนานาชาติ 26 แห่ง สถาบันการแพทย์ในประเทศไทย 2 แห่ง นี่แค่ส่วนของการการันตีนะครับ
มาต่อกันที่ความสามารถคือทำงานผ่านระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ปล่อยอนุภาคไฟฟ้าประจุบวกและลบแบบเดียวกับธรรมชาติ โดยอนุภาคเหล่านี้จะเข้าไปทำลายผนังของเซลล์ฆ่าเชื้อรา เชื้อไวรัส เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไข้หวัดนกH5N1 กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยลดอาการภูมิแพ้ฝุ่นละออง และที่สำคัญสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ด้วยนะ ทำให้ห้องสะอาดน่าอยู่ขึ้น เหมาะกับห้องขนาด 20-23 ตารางเมตร ด้วยตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเพียง 4 กิโลกรัมกับความยาวสาย 2 เมตร
ไขข้อสงสัยการทำงานของพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเจาะลึก
การทำงานของแรงลมที่มีอัตราส่วนระหว่างปริมาตรของลมที่ไหลผ่านต่อหนึ่งหน่วยเวลา ที่เรียกว่า “Air Flow” การทำงานของพัดลมมีทั้งหมด 3 ระดับ ดังนี้
- ระดับสูงสุดอยู่ที่ 180 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
- ระดับกลาง 120 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
- ระดับ Sleep 60 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ระดับเสียงในการทำงาน
- ระดับสูง 44 เดซิเบล
- ระดับกลาง 36 เดซิเบล
- ระดับต่ำ 23 เดซิเบล
ระบบฟอกอากาศและกำจัดฝุ่นละออง
- อนุภาคของพลาสม่าคลัสเตอร์ช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิต
- ระดูดอากาศและแรงลมช่วยในการทำความสะอาดฝุ่นละอองและพวกอนุภาคของสิ่งสกปรกขนาดเล็กในอากาศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูงช่วยดักจับอนุภาคของฝุ่นละอองในอากาศได้อย่างหมดจรด
ในส่วนของดีไซน์อย่างที่บอกไปว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 4 กิโลกรัม จึงทำให้มีรูปทรงที่กระทัดรัด และดีไซน์ที่ทันสมัยเรียบหรู แถมยังมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 3 สี ประกอบด้วย สีดำ สีฟ้า และสีชมพู แถมการรับประกัน 1 ปี มาพร้อมกับแผ่นกรองอากาศ 1 ชุด (ไม่นับรวมกับแผ่นกรองอากาศในตัวเครื่อง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในสภาวะแบบนี้ ผมแนะนำให้เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศทุก 6 เดือนดีกว่านะครับ ส่วนราคาคร่าวๆ ของแผ่นกรองอากาศในท้องตลาดประมาณ 2,000 บาท และสำหรับราคาเครื่องครบชุด 3,490 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้นด้วยนะครับ)
ส่วนตัวจากที่ผมใช้มายังไม่พบปัญหาใดๆ โดยรวมถือว่าดีเลยแหละครับ แถมดีไซน์ก็ถูกใจเหมาะกับห้องนอนเหมือนเป็นของแต่งห้อง และที่สำคัญราคาไม่แรงมากถือว่าผ่านเลยครับ สำหรับใครที่สนใจ คลิก ที่สำคัญอีกอย่างอย่าลืมสะสม Big C Big Card กันด้วยนะครับเวลาซื้อของที่มีราคาสูงทั้งทีต้องได้แต้มสะสมกลับเพื่อความคุ้มค่ากันนะครับทุกคน
